วันที่ 4 มิ.ย.58 วัดแม่พระบังเกิด เชียงราย เป็นประธานประกอบวจนพิธีกรรมในโอกาสวันไหว้ครู เราทุกคนล้วนมีคุณพ่อคุณแม่
และตระหนักดีว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณอย่างใหญ่หลวงต่อเรา ในฐานะที่เป็นผู้ให้กำเนิด
อบรมเลี้ยงดูและเอาใจใส่ดูแลเรามาตั้งแต่เล็กจนโต
ความรักและความห่วงใยของท่านที่มีต่อเราโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
ไม่มีวันจืดจางและเลือนหายไป แม้ในวันที่เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม
คุณพ่อคุณแม่จึงเป็นดั่ง “ครูคนแรก”
ที่เราจะต้องสำนึกพระคุณของท่านอยู่เสมอ
นอกเหนือไปจากคุณพ่อคุณแม่ของเราแล้ว เรายังมีคุณครูที่โรงเรียนที่คอยดูแล
อบรมสั่งสอนและประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับเรา
ครูเป็นทั้งผู้ให้และผู้ชี้ทางสว่าง
กล่าวคือให้ความรู้แก่สติปัญญาที่เขลาของเราในวัยเยาว์จนกระจ่างแจ้ง
อีกทั้ง ช่วยชี้ทางสว่างและนำเราเดินในหนทางที่ถูกต้องดีงาม คุณครูจึงเป็นดัง “คุณพ่อคุณแม่คนที่สอง” ที่เราต้องรำลึกพระคุณอยู่เสมอเช่นกัน
บางคนเปรียบครูเป็นเหมือนกับ “แสงเทียน”
หรือ “เรือจ้าง”
เป็นแสงเทียนที่ละลายแท่งเพื่อส่องสว่างให้ศิษย์ที่ยังขลาดเขลาได้เดินในทางที่ดีงาม
เป็นดังเรือจ้างที่นำพาศิษย์ไปสู่จุดหมายปลายทางข้างหน้าอย่างปลอดภัย
ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและมุ่งมั่น
ด้วยดวงตาที่ห่วงใยและปรารถนาดี
เพื่ออบรมสั่งสอนศิษย์ให้เป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ ด้วยความทุ่มเท
เสียสละและพากเพียร
ดังนั้น
คุณครูจึงเป็นผู้ประเสริฐที่เราต้องสำนึกพระคุณอยู่เสมอ
พระคุณครูจะต้องติดตรึงในใจเราทุกคนตลอดไป
เราจะต้องรักและเคารพครูด้วยหัวใจ บทเพลงที่เราเพิ่งร้อง (รางวัลของครู)
บอกเราว่า ความภูมิใจของครูมิได้อยู่ในพานไหว้ครู
แต่อยู่ในวันที่รู้ว่าศิษย์นั้นไปได้ดี และสิ่งที่ครูต้องการจากเรามากที่สุดคือ การเป็นคนดี “รู้ถูกรู้ผิดมีชีวิตที่สดใส
สิ่งนั้นที่ครูฝันใฝ่เพื่อเป็นแรงใจให้ครู รู้ถูกรู้ผิดมีชีวิตที่ก้าวไกล
เป็นคนที่ดีให้ได้ นั่นคือรางวัลให้ครู”
เราคงเคยได้ยินคำกล่าวว่า “ได้ดีเพราะมีครู” ถือเป็นคำพูดที่กลั่นมาจากประสบการณ์ของคนที่ประสบผลสำเร็จในชีวิตทั้งหลาย
ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เขามีวันนี้ได้เพราะครู”
หากเราต้องการประสบผลสำเร็จและยืนอยู่ในจุดที่สูงสุดของชีวิต
เหมือนผู้ที่ประสบผลสำเร็จในชีวิตทั้งหลาย เราต้องเคารพเชื่อฟังครูบาอาจารย์ เอาใจใส่
ตั้งใจเรียนและปฏิบัติตามคำแนะนำสั่งสอนของท่านอยู่เสมอ
และเราจะประสบผลสำเร็จในชีวิตเช่นเดียวกัน
คำว่า
“ครู” หมายถึง “บุคคลที่ควรเคารพ”
ในอดีตคนให้ความเคารพนับถือครูมาก รองจากบิดามารดา
ครูจึงต้องเป็นผู้ที่ดีพร้อมทั้งวิชาความรู้และความประพฤติ มีจิตใจเที่ยงธรรม
ปราศจากอคติเอนเอียง หมั่นศึกษาค้นคว้าเพื่อเพิ่มพูนความรู้ของตนให้แตกฉานอยู่เสมอ
จะได้ถ่ายทอดให้ศิษย์ได้เข้าใจง่ายไม่น่าเบื่อ อีกทั้ง
เอาใจใส่ตักเตือนศิษย์ในเรื่องความประพฤติ จรรยามารยาท
ชี้ให้ศิษย์เห็นว่าอะไรควรไม่ควร
ไม่ใช่ด้วยคำพูดเท่านั้นแต่ด้วยแบบอย่างชีวิตที่ดีงามของเรา
ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ เพราะ “การกระทำย่อมดังกว่าคำพูด” เสมอ
สมกับการเป็นปูชนียบุคคลของสังคม
สังคมทุกวันนี้คาดหวังและปรารถนาจะเห็นครู
ประพฤติปฏิบัติตน: 1) ทำหน้าที่ด้วยอุดมการณ์ของความเป็นครู,
2) มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ครูให้สมบูรณ์
ด้วยหลักธรรมและหลักวิชาชีพครู, 3) เพียรพัฒนาตนเองตลอดชีวิต
ทั้งทางด้านคุณธรรม จริยธรรม วิชาการ และวิชาชีพครู และ 4) ร่วมแรงร่วมใจกัน
รู้จักทำงานเป็นกลุ่ม (Team Work) เพื่อทำให้เป้าหมายของเราบรรลุผลสำเร็จได้ง่ายขึ้น
โดยเฉพาะปีนี้เรามีผู้อำนวยการคนใหม่ เราจำเป็นจะต้องเปิดใจ
เปิดความคิดของเรารับสิ่งใหม่ๆ ด้วย
บทสรุป
ขอให้คุณครูทุกคนได้ตระหนักในคุณค่าของความเป็นครู
มีจิตวิญญาณของความเป็นครู ตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ในอันที่จะร่วมมือร่วมใจกัน
ทำให้โรงเรียนของเราเป็นสถานศึกษาที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน เพื่ออบรมบ่มเพาะเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นบุตรหลานของเรา
ให้เป็นผู้มีความรู้ มีทักษะชีวิต มีคุณธรรมจริยธรรม มีความประพฤติดีเรียบร้อย
และสามารถดำรงตนในสังคมอย่างมีความสุข
ขอน้อมถวายไหว้ครูบาอาจารย์ ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา
ขอโมทนาพระคุณครู เทอญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น