วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พิธีรับการแต่งตั้งเป็นธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรม ที่กรุงโรม(วาติกัน)

พิธีรับการแต่งตั้งเป็นธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรม ที่กรุงโรม



ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ได้ประกาศให้พระศาสนจักรทั่วโลกเฉลิมฉลองปีนี้เป็นพิเศษ เริ่มด้วยการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ เข้าสู่พระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า และโปรดประทานพระคุณการุณย์แก่ผู้ที่ได้เยี่ยนเยียนวัดที่พระศาสนจักรประกาศให้เป็นวัดจาริกแสวงบุญ ซึ่งคณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรมจากประเทศไทย ซึ่งมีทั้งหมด 15 ท่าน ประกอบด้วย อัครสังฆมณฑล กรุงเทพฯ 6 ท่าน สังฆมณฑล เชียงใหม่ 6 ท่าน สังฆมณฑล ราชบุรี 1 ท่าน สังฆมณฑลนครราชสีมา 1 ท่าน และสังฆมณฑล สุราษฏร์ธานี 1 ท่าน ได้สู่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 7 -14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016

วันที่ 7 ก.พ.59 คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูทางเข้า 7 แถว P (Qatar Airways) เจ้าหน้าที่ "สตาร์แมสเตอร์" รอต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารและสัมภาระ พวกเราเดินทางจากท่ากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 837 เพื่อจะเดินทางไปกรุงโดฮา  และต่อเครื่องไปกรุงโรม ด้วยสายการบิน Qarta Airways เที่ยวบินที่ QR 131 พร้อมได้รับความสะดวกสบายจาก star master ที่ได้จัดเตรียมทุกอย่างให้ และหัวหน้าทัวร์ระดับมือโปรครับ
 

วันที่ 8 ก.พ.59 คณะธรรมฑูตเมตตาธรรมอยู่สนามบินที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อจะต่อเครื่องไปกรุงโรม เครื่องออกเวลา 8.40 am.และจะถึงกรุงโรมเวลา 12.40 pm ที่ท่าอากาศยาน เลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน เมืื่อเครื่องลงตามเวลานัดหมาย หัวหน้าทัวร์ได้ติดต่อรถทัวร์มารับที่สนามบิน เพื่อที่จะเดินทางไปลงทะเบียนและรับเอกสารที่สำนักงาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ หลังจากที่ได้รับเอกสารเรียบร้อยร้อย เป็นโอกาสที่จะเดินซื้อรูปพระศักดิ์สิทธิ์รอบๆ วาติกัน พอตกเย็นหัวหน้าทัวร์ได้นำคณะไปที่ร้านอาหารพื้นเมือง "Aldo AiMusei Vaticani"หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วก็กลับมายังที่พัก ซึ่งอยู่นอกวาติกันเล็กน้อย โรงแรมชื่อ "Hotel Beverly Hill Rome"




วันที่ 9 ก.พ.59 วันนี้คณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรม ช่วงเช้าพวกเราไปเยี่ยมเยียนวัด Salvatore ซึ่งเป็นวัดแสวงบุญที่วาติกันได้ประกาศสำหรับปีนี้เป็นพิเศษ เพื่อรับพระคุณการุณย์ พวกเราสวดสายประคำ และแก้บาปเตรียมสำหรับมิสซาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันพุธรับเถ้า  วันนี้ที่มหาวิหารนักบุญเปโตร เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้แสวงบุญเข้าเยี่ยมชมมหาวิหารได้เพราะมีพิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของคณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรมทั่วโลก  ส่วนภาคบ่ายร่วมขบวนแห่เข้าสู่พระมหาวิหารน.เปโตร เข้าสู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ เดินรอบภายในมหาวิหารหนึ่งรอบ หลังจากนั้นคณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรมทั้งหมดพบปะพระสันตะปาปา ที่ห้องประชุมใหญ่ Sala Regia,Palacio Apostoloco ซึ่งสามารถรองรับผู้คนได้พันกว่าคน หลังจากที่พบปะและรับฟังโอวาทจากสมเด็จพระสันตะปาปา ถึงเหตุผลที่เรียกพวกเรามารวมกันที่ว่า พระเจ้าทรงใช้เราเป็นเครื่องมือของพระองค์ ที่จะนำความรักเมตตาไปสู่คนบาปทั้งหลาย ดังนั้น ขอให้พวกเราได้ทำหน้าที่อย่างสมเกียรติที่พระองค์ทรงเรียกและเลือกเราให้มาทำหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์นี้ หลังจากที่ได้พบปะฟังโอวาทอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ทางวาติกันได้จัดเตรียมเลี้ยงต้อนรับที่ตึก The Atrium of the Paul VI































































 











 
































































วันที่ 10 ก.พ.59 วันนี้คณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรม ได้เยี่ยมเยียนมหาวิหารน.ยอห์น ลาเตรัน สร้างขื้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ถือเป็นวัดเอกเหนือวัดใดๆ ในกรุงโรมและถือเป็นวัดแม่ของพระศาสนจักรโรมัน ถือเป็นมหารวิหารเก่าแก่ที่สุดในมหาวิหารอี่ก 4 แห่งที่มีชื่อเสียง อีกทั้งยังเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาและคณะผู้บริหารเรื่อยมาถึงปี คศ.1309 หลังจากนั้น ไม่ห่างกันมากนักพวกเราได้เยี่ยมวัดที่บรรจุพระธาตุน.ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ในวัดนี้ และต่อด้วยเยี่ยมชมวัดแม่พระภูเขาหิมะ หรือเนียกอีกชื่อหนึ่งคือ แม่พระมารดาของพระเจ้า ก่อนที่จะมาเตรียมตัวมิสซาวันพุธรับถ้ำที่มหาวิหารนักบุญเปโตร พระสันตะปาปาเป็นประธานมิสซา หลังมิสซามีพิธีถวายเกียรติแด่พระธาตุคพ.ปีโอ ที่เราคึ้นเคบคือ คพ.สติกมาตาที่มีรอยแผลเป็นที่ฝ่ามือนี่นเอง






























































































































วัดแม่พระบังเกิด เชียงราย วันที่ 11 ก.พ.59 วันนี้คณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรม เดินทางจากกรุงโรมออกนอกเมืองที่ San Pio Pietrelcina คือวัดคพ.ปีโอ น.ผู้มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ พวฏเราแวะทานสปาเก็ตตี้บ่ายที่ Trattoria La Rosa เวลา 4.45 น. ได้ถวายมิสซาที่วัดน้อยใต้ดิน สมัยที่สมัยที่สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์นปอล ที่ 2 เป็นพระคาดินัลในสมัยนั้นท่านก็เคยมาถวายมิสซาที่นี่ วันนี้คพ.สมศักดิ์ ได้รับเกียรติให้เป็นประธานมิสซาในฐานะสงฆ์อาวุโส แต่ก็ยังฟิตเต็ม 100% เพราะแต่ละวันต้องเดินหลายกิโลเมตร หลังเสร็จมิสซาแล้วมีโอกาสเยี่ยมชมที่ฝังศพและภิพิทธภัณท์ของท่าน นับว่าพวกเราโชดดีมาก ขณะเดียวกันพระธาตุของท่านซึ่งนำไปตั้งไว้ที่มหาวิหารน.เปโตร เพื่อให้สัตบุรุษได้เคารพรพสักการะ ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ให้ท่านเป็นเครื่องหมายที่เป็นกิจการเมตตาธรรมตลอดชีวิตของท่าน และพระธาตุของท่านก็จะนำกลับมาในเย็นวันนี้เช่นกัน











































วัดแม่พระบังเกิด เชียงราย วันที่ 12 ก.พ.59 วันนี้คณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรม ได้ถวายมิสซาที่วัดน้อย st.Mary of Grace ซึ่งอยู่ด้านข้างวัดคพ.ปีโอ และเป็นสถานที่ที่คพ.ปีโอนั่งฟังแก้บาปเป็นเวลา 15 ช.ม.ต่อวัน ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ วันนี้คพ.บุญเลิศ สร้างกุศลในพสุธา อุปพระสังฆราช เชียงใหม่เป็นประธานมิสซา และคพ.สมชายเป็นผู้แบ่งปัน หลังจากนั่นเดินทางกลับเข้ากรุงโรม แวะเยี่ยมชมเมืองที่ Pescara ต่อด้วยอาหารบ่ายที่ Birreria del Corso Restaurant



























วันที่ 13 ก.พ.59 วันนี้คณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรม ได้เยี่ยมชมอดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนาและเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน หรือที่เรียกกันว่า Roman Forum ที่สะท้อนให้เห็นถึงยุคที่เจริญรุ่งเรืองแห่งอาณาจักรโรมัน ช่วงเวลา 2000 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ที่ใครๆ ก็อยากจะไปเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกรุงโรม ถัดไปก็จะเป็นสถานที่ของการต่อสู้ปะลองฝีมือในสนามแห่งนี้คือ Colosseum ซึ่งเป็น 1ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกยุคโบราณ สนามประลองการต่อสู่แห่งนี้สสมารถจุคนได้ 50,000 คน หลังจากนั่นก็ไปชมน้ำพุที่มีความสวยงามที่ชื่อว่าเทวี Travi Fountain ซึ่งเป็นปฏิมากรรมเทพนิกายกรีกโบราณ ผู้คนก็โยนเหรียญเสี่ยงทายไปตามความเชื่อ ต่อด้วยเยี่ยมชมบันไดสเปนและวัดพระตรีเอกภาพและคาตากอมหรือที่เรียกว่าที่ หลบภัยบรรดาคริสตชนในยุคของการเบียดเบียน ตบท้ายด้วยเยี่ยมชมมหาวิหารน.เปาโล นอกกำแพงเมือง



















































วัดแม่พระบังเกิด เชียงราย วันที่ 14 ก.พ.59 ขอมอบความรักส่งความสุขวันวาเลนไทน์ แด่ทุกๆ ท่านครับ คณะธรรมฑูตแห่งเมตตาธรรมเดินทางกลับประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ พวกเราเดินทางจากกรุงโรมด้วยสายการบิน Qarta Airways เที่ยวบินที่ QR 110 และแวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ ด้วยเที่ยวบินที่ QR 832 ใช้เวลาประมาณ 5.30 ชม. พวกเรามาถึงสุวรรณภูมิเวลา 6.30 น.และแยกย้ายกันกลับไปทำหน้าที่ของตน ขอบคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระองค์อุปภัมถ์ของชาวเรา ที่ได้มีโอกาสดีๆ เช่นนี้และจะจดจำตลอดกาล ขอบคุณสำหรับเพื่อนร่วมเดินทางทุกๆ ท่านเช่นกันครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น